การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

วิธีการตั้งค่าและใช้ Take Profit และ Stop Loss ในการเทรด Forex

1 กระทู้
1 ผู้ใช้
0 Reactions
76 เข้าชม
thanongsuk12
(@thanongsuk12)
สมาชิก
Rank G
เข้าร่วม: 10 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 208
หัวข้อเริ่มต้น  

Take Profit (TP) และ Stop Loss (SL) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถปกป้องกำไรและจำกัดการขาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตั้งค่า TP และ SL อย่างเหมาะสมช่วยให้คุณควบคุมความเสี่ยง และสร้างวินัยในการเทรด

 

1. Take Profit (TP) คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ

Take Profit (TP) คืออะไร

TP คือระดับราคาที่คุณตั้งไว้ล่วงหน้า เมื่อราคาวิ่งไปถึงจุดนี้ ออเดอร์ของคุณจะปิดอัตโนมัติ และคุณจะได้กำไรตามที่กำหนด

ทำไมต้องใช้ TP

  • ช่วยล็อกกำไรโดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา
  • ป้องกันอารมณ์โลภที่อาจทำให้คุณถือออเดอร์นานเกินไป
  • ลดความเครียดจากการต้องคอยตัดสินใจปิดออเดอร์ด้วยตัวเอง

คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์

  • ตั้ง TP ตามแนวต้านหรือแนวรับที่แข็งแกร่ง
  • ใช้ Risk-to-Reward Ratio ที่เหมาะสม เช่น 1:2 หรือ 1:3
  • อย่าตั้ง TP ใกล้เกินไป เพราะอาจโดนลากก่อนที่ราคาจะไปถึงเป้าหมายจริง

 

2. Stop Loss (SL) คืออะไร และช่วยป้องกันพอร์ตอย่างไร

Stop Loss (SL) คืออะไร

SL คือระดับราคาที่คุณกำหนดไว้ล่วงหน้า ถ้าราคาวิ่งไปถึงจุดนี้ ออเดอร์จะปิดอัตโนมัติ เพื่อลดการขาดทุน

ทำไมต้องใช้ SL

  • ป้องกันการขาดทุนหนักจากความผันผวนของตลาด
  • ลดอารมณ์กลัวและลังเล ทำให้การเทรดเป็นระบบมากขึ้น
  • ควบคุมความเสี่ยงและรักษาทุนให้สามารถเทรดได้ต่อเนื่อง

คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์

  • อย่าตั้ง SL แคบเกินไป เพราะอาจโดนตัดขาดทุนก่อนที่ราคาจะไปในทิศทางที่คาดไว้
  • ใช้ Position Sizing เพื่อกำหนดขนาดล็อตให้เหมาะสมกับ SL
  • หลีกเลี่ยงการขยับ SL ไปไกลขึ้นเมื่อราคาใกล้ชน เพราะอาจทำให้เสียมากกว่าเดิม

 

3. วิธีตั้งค่า TP และ SL บนแพลตฟอร์มเทรด

วิธีตั้ง TP และ SL บน MetaTrader 4/5 (MT4/MT5)

  1. เปิดออเดอร์ที่ต้องการเทรด
  2. กรอกค่า TP และ SL ในช่องที่กำหนด
  3. หากต้องการแก้ไข ให้คลิกขวาที่ออเดอร์ > Modify
  4. กำหนดค่า TP และ SL ใหม่ แล้วกด Confirm

วิธีใช้ TP และ SL บน cTrader

  1. เปิดคำสั่งซื้อหรือขาย
  2. เลือกระดับ TP และ SL บนกราฟ
  3. สามารถลากเส้น TP และ SL บนกราฟเพื่อปรับค่าได้ง่าย

คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์

  • ทดลองตั้งค่า TP และ SL ในบัญชีทดลองก่อน เพื่อลองดูว่าแบบไหนเหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณ
  • ใช้ Trailing Stop ถ้าคุณต้องการให้ SL ขยับตามแนวโน้มเพื่อรักษากำไร

 

4. วิธีเลือกจุด TP และ SL ที่มีประสิทธิภาพ

ใช้แนวรับ-แนวต้าน

  • ตั้ง TP ที่แนวต้านสำคัญเมื่อเข้า Buy และที่แนวรับสำคัญเมื่อเข้า Sell
  • ตั้ง SL ให้ต่ำกว่าหรือสูงกว่าระดับแนวรับแนวต้านเล็กน้อยเพื่อป้องกันการโดนลาก

ใช้ ATR (Average True Range) วัดความผันผวน

  • ถ้าคู่เงินมีความผันผวนสูง SL ควรตั้งกว้างขึ้น
  • ใช้ค่า ATR คำนวณ SL และ TP ตามระยะที่ราคาเคลื่อนไหวในช่วงเวลานั้น

ใช้ Risk-to-Reward Ratio

  • ควรตั้ง TP และ SL ให้มีอัตราส่วน 1:2 หรือ 1:3 เพื่อให้การเทรดมีกำไรที่คุ้มค่ากับความเสี่ยง

คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์

  • อย่าตั้ง TP และ SL แบบสุ่ม ต้องมีหลักการรองรับ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ SL และ TP ที่แคบหรือกว้างเกินไปโดยไม่คำนึงถึงโครงสร้างตลาด

 

5. การใช้ Trailing Stop เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร

Trailing Stop คืออะไร

Trailing Stop คือ SL ที่ขยับตามราคาที่เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณทำกำไร เช่น ถ้าคุณ Buy แล้วราคาขึ้น Trailing Stop จะขยับขึ้นตาม ทำให้คุณรักษากำไรได้

ข้อดีของการใช้ Trailing Stop

  • ปกป้องกำไรที่คุณทำได้
  • ช่วยให้คุณสามารถถือออเดอร์ได้นานขึ้น
  • ลดโอกาสที่กำไรจะกลายเป็นขาดทุน

คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์

  • ตั้งระยะห่างของ Trailing Stop ให้เหมาะสมกับความผันผวนของตลาด
  • ใช้คู่กับกลยุทธ์แนวโน้มเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

 

สรุป การตั้ง TP และ SL ให้มีประสิทธิภาพ

✅ TP ช่วยล็อกกำไร ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ
✅ SL ป้องกันการขาดทุนหนักและช่วยให้มีวินัย
✅ ใช้แนวรับแนวต้าน, ATR และ Risk-to-Reward Ratio ช่วยในการตั้งค่า
✅ ทดลองในบัญชีเดโม่ก่อนใช้จริง

การตั้ง TP และ SL ที่ดีช่วยให้เทรดเดอร์อยู่รอดในตลาดระยะยาวได้ แล้วคุณมีเทคนิคตั้ง TP และ SL อย่างไร มาแชร์กันได้เลย


   
อ้างอิง
แท็กหัวข้อ

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: