บทบาทของสภาพคล่องในตลาด Forex และผลกระทบต่อการเทรด
เรื่องของ สภาพคล่อง ในตลาด Forex นี่เป็นอะไรที่สำคัญมากๆ แต่หลายคนมักจะมองข้ามไป จริงๆ แล้ว สภาพคล่องคือหัวใจหลักที่ทำให้เราซื้อขายในตลาดได้อย่างราบรื่น มันเหมือนกับน้ำที่ไหลได้อย่างไม่มีสะดุดในแม่น้ำใหญ่ ตลาด Forex นี่แหละที่เป็นเหมือนแม่น้ำที่มีน้ำไหลแรง เพราะมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงถึงหลายล้านล้านดอลลาร์ แต่ถ้าสภาพคล่องลดลง มันจะเป็นยังไง? วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังถึงบทบาทของสภาพคล่องในตลาด Forex และผลกระทบต่อการเทรดของเราครับ
สภาพคล่องคืออะไร?
ถ้าจะให้อธิบายแบบง่ายๆ สภาพคล่องก็คือ "ความสามารถในการซื้อขายสินทรัพย์ได้อย่างรวดเร็วโดยที่ราคายังใกล้เคียงเดิม" สมมติว่าคุณอยากจะซื้อขายคู่เงิน EUR/USD ในตลาด Forex ถ้าสภาพคล่องสูง คุณก็จะสามารถซื้อหรือขายได้เลยในราคาที่ต้องการ โดยไม่ต้องกลัวว่าราคาจะกระโดดไปทางไหนไกลยิ่งคู่เงินที่เป็นคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD หรือ USD/JPY นี่แหละ สภาพคล่องสูงสุดๆ เพราะมีคนซื้อขายตลอดเวลา แต่ถ้าเป็นคู่เงินที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ เช่น คู่เงินแปลกๆ หรือคู่เงินเกิดใหม่ (Exotic Pairs) อันนี้ล่ะครับ สภาพคล่องจะต่ำลง ทำให้การซื้อขายอาจจะยากขึ้น และราคาก็ผันผวนมากกว่า
บทบาทของสภาพคล่องในตลาด Forex
- ช่วยให้สเปรดต่ำ
รู้จัก สเปรด กันใช่ไหม สเปรดก็คือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) ซึ่งเราต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์ เวลาที่เราซื้อขายในคู่เงินที่มีสภาพคล่องสูง สเปรดก็จะต่ำลงไปด้วย เพราะโบรกเกอร์สามารถหาคู่เงินที่ตรงกับคำสั่งซื้อขายของเราได้ง่าย แต่ถ้าคู่เงินที่เราซื้อขายมีสภาพคล่องต่ำ สเปรดจะกว้างกว่าเดิม เพราะโบรกเกอร์ต้องรับความเสี่ยงจากการที่ตลาดไม่ค่อยมีคนซื้อขาย
- ลดความผันผวน
สภาพคล่องมีผลในการลดความผันผวนของตลาดด้วยครับ ถ้ามีคนซื้อขายเยอะๆ ราคาก็จะขยับไปเรื่อยๆ อย่างนุ่มนวล ไม่พุ่งขึ้นหรือลงแรงๆ แต่ว่าถ้าตลาดขาดสภาพคล่อง เช่น ช่วงสุดสัปดาห์ที่ตลาดใหญ่ๆ อย่างตลาดนิวยอร์กหรือลอนดอนปิด ราคาอาจจะผันผวนขึ้นลงอย่างรวดเร็ว และนั่นก็เป็นความเสี่ยงที่เราต้องระวัง
- ช่วยให้เข้าออกตลาดง่าย
ข้อดีของตลาดที่มีสภาพคล่องสูงอีกอย่างคือ คุณสามารถเข้าออกตลาดได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าราคาจะเคลื่อนไหวมาก ถ้าคุณต้องการเปิดหรือปิดออร์เดอร์ในตลาดที่สภาพคล่องต่ำ คุณอาจจะต้องเจอปัญหาในการจับคู่คำสั่งซื้อขาย และบางครั้งราคาอาจขยับไปไกลจนคุณไม่พอใจ
ผลกระทบของสภาพคล่องต่อการเทรด
- ต้นทุนการเทรดสูงขึ้น
สภาพคล่องส่งผลโดยตรงต่อ ต้นทุนการเทรด ของเราเลยครับ ถ้าสภาพคล่องต่ำ สเปรดกว้างขึ้น ต้นทุนก็สูงขึ้น กำไรก็อาจจะน้อยลงด้วย เพราะเราต้องจ่ายสเปรดมากกว่าเดิม การเลือกคู่เงินที่มีสภาพคล่องสูงอย่าง EUR/USD ก็จะช่วยลดต้นทุนตรงนี้ไปได้
- ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในออร์เดอร์ใหญ่
ถ้าคุณเป็นคนที่เทรดด้วยออร์เดอร์ใหญ่ๆ เช่น หลายล้านดอลลาร์ สภาพคล่องก็จะมีผลกับคุณมากขึ้นไปอีกครับ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณทำการซื้อหรือขายในตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ การเคลื่อนไหวของราคาจะเกิดขึ้นอย่างแรงและรวดเร็ว เพราะออร์เดอร์ใหญ่ของคุณอาจทำให้ตลาดเกิดความผันผวนได้เลย
- ตอบสนองต่อข่าวสารเร็ว
ข่าวสำคัญๆ ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ย หรือการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ จะทำให้สภาพคล่องในตลาดเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เวลาที่มีข่าวออกมาคุณจะเห็นว่าราคาพุ่งไปพุ่งมาอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพคล่องลดลงอย่างชัดเจน การเข้าไปเทรดในช่วงนั้นจึงมีความเสี่ยงสูงมาก
แล้วเราควรทำยังไง?
เวลาที่คุณเทรด คุณควรเลือกช่วงที่ตลาดมีสภาพคล่องสูงที่สุด ซึ่งก็คือช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเปิดพร้อมกันครับ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีคนซื้อขายเยอะที่สุด ราคาก็จะนิ่งขึ้น สเปรดก็จะต่ำลง และโอกาสในการทำกำไรของคุณจะสูงขึ้นด้วย
อย่าลืมว่า สภาพคล่องมีผลกระทบอย่างมากต่อการเทรดของคุณ การเข้าใจว่าตลาดในช่วงไหนมีสภาพคล่องสูงหรือต่ำ จะช่วยให้คุณสามารถเลือกจังหวะเข้าออกตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเทรดด้วย
การจัดการความเสี่ยงก็เป็นอีกเรื่องสำคัญครับ ใช้ Stop Loss ในการป้องกันการขาดทุนจากความผันผวนในตลาดที่สภาพคล่องต่ำ และเลือกช่วงเวลาในการเทรดที่เหมาะสม จะทำให้คุณสามารถลดความเสี่ยงได้มากขึ้น
---
สรุปง่ายๆ คือ สภาพคล่องในตลาด Forex เป็นเรื่องที่เราต้องใส่ใจอย่างมาก เพราะมันส่งผลกระทบต่อทุกการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็น สเปรด ความผันผวน หรือการเข้าออกตลาด ถ้าคุณสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ คุณก็จะมีโอกาสทำกำไรในตลาดนี้ได้มากขึ้นครับ
ทิ้งคำตอบไว้
- 39 ฟอรัม
- 1,028 หัวข้อ
- 3,201 กระทู้
- 15 ออนไลน์
- 1,406 สมาชิก