ความแตกต่างระหว่างเทรด Forex กับการลงทุนในหุ้น

ถ้าคุณยังใหม่อยู่แล้วสงสัยว่า “ ตกลงฉันควรจะเทรด Forex หรือไปลงทุนในหุ้นดี ” งั้นมาลองดูกันว่าแต่ละแบบมันต่างกันยังไงบ้าง

ตลาดที่คุณกำลังเทรดอยู่

• Forex: ถ้าคุณเทรด Forex ก็คือคุณกำลังซื้อขายเงินต่างประเทศนั่นแหละ คิดซะว่าคุณกำลังคิดว่าเงินสกุลไหนจะแข็งขึ้นหรืออ่อนลง สมมุติว่าคุณคิดว่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร คุณก็ซื้อดอลลาร์/ขายยูโร รอทำกำไรตอนมันขึ้น
• หุ้น: แต่ถ้าคุณลงทุนในหุ้น ก็คือคุณซื้อส่วนเล็กๆ ของบริษัท เช่น ซื้อหุ้น Apple ก็คือคุณเป็นเจ้าของนิดๆ ของ Apple และเวลา Apple กำไร หุ้นขึ้น คุณก็ขายทำกำไร หรือถือไว้รอรับปันผล หลักการประมาณนี้

วิธีทำกำไร

• Forex: ใน Forex คุณทำกำไรจากการคาดเดาว่าค่าเงินจะขึ้นหรือลง ตัวอย่างเช่น คุณซื้อเงินเยน (JPY) เพราะคิดว่ามันจะขึ้นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ถ้ามันขึ้นจริงๆ คุณก็ฟันกำไรได้เลย แต่ถ้าเดาผิด ขาดทุนก็เป็นไปได้ง่ายๆ อย่าลืมตั้ง SL
• หุ้น: ส่วนในหุ้น คุณซื้อหุ้นแล้วรอให้ราคามันขึ้น หรือถ้าบริษัททำกำไรดีๆ คุณก็ได้ปันผลไปด้วย ถ้าราคาหุ้นขึ้น คุณก็สามารถขายเอากำไร หรือถ้าคุณรักในความมั่นคง ก็ถือหุ้นไว้ยาวๆ รอรับเงินปันผลอย่างเดียว อันนี้คือได้สองทาง

ความเสี่ยงและความผันผวน

• Forex: ตลาด Forex มันแปรปรวนผันผวนง่ายมาก ราคามันสามารถวิ่งขึ้นวิ่งลงได้รวดเร็ว เพราะมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น เศรษฐกิจ การเมือง หรือแม้แต่ข่าวต่างๆ  ดังนั้น คุณอาจจะเห็นกำไรเยอะในไม่กี่นาที แต่ก็ขาดทุนได้เร็วเช่นกัน อันนี้โดนมาบ่อย
• หุ้น: ในหุ้น ราคามักจะเคลื่อนไหวช้ากว่า Forex ถ้าคุณไม่ได้เล่นหุ้นตัวที่เสี่ยงมากๆ ความเสี่ยงก็จะน้อยกว่า คุณมีเวลาคิดมากขึ้น เพราะหุ้นมันไม่ได้แกว่งแรงเท่า Forex แต่อาจจะต้องใช้เวลารอ

เวลาในการเทรด

• Forex: เทรด Forex คือมันส์สุดๆ เพราะตลาดมันเปิด 24 ชั่วโมง ไม่มีหยุด คุณจะนอนดึกหรือตื่นเช้า ก็เทรดได้ตลอดเวลา สะดวกแบบนี้แหละ มือใหม่หลายคนก็เลยชอบ ผมเองก็ชอบ
• หุ้น: ส่วนตลาดหุ้นมันมีเวลาเปิดปิดชัดเจน ถ้าคุณทำงานประจำ แล้วอยากเทรดหุ้น คุณต้องหาช่วงเวลาที่ตลาดเปิด (เช่น ตลาดหุ้นไทยเปิดเช้าถึงบ่าย) ถ้าไม่ว่างก็ต้องพลาดโอกาสไป 

การใช้ Leverage

• Forex: ใน Forex คุณสามารถใช้ Leverage ได้สูงมากๆ บางโบรกใช้เลเวอร์เรจได้ แบบอันลิมิต คือคุณสามารถควบคุมเงินเยอะๆ ได้ด้วยเงินลงทุนน้อย แต่ระวังนะ มันเหมือนดาบสองคม ถ้าเดาถูกก็ได้กำไรเยอะ แต่ถ้าเดาผิด ขาดทุนก็จะเยอะตามไปด้วย ร้ายสุดคือล้างพอร์ต
• หุ้น: ในหุ้น การใช้ Leverage ไม่ได้เยอะขนาดนั้น ถ้าคุณอยากกู้เงินมาเล่นหุ้นก็ทำได้ แต่ความเสี่ยงมันสูงกว่าการใช้เงินตัวเองเยอะ แถมต้องจ่ายดอกเบี้ยด้วย

ความรู้และความเข้าใจ

• Forex: การเทรด Forex คุณต้องเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจโลก การวิเคราะห์กราฟ และติดตามข่าวสารเยอะๆ เพราะทุกอย่างมันมีผลต่อค่าเงิน ถ้าคุณชอบอะไรแบบนี้ Forex ก็เป็นทางเลือกที่ดี
• หุ้น: ส่วนในหุ้น คุณต้องศึกษาบริษัทที่คุณจะลงทุน อ่านงบการเงิน ดูข่าวบริษัทและอุตสาหกรรม ถ้าคุณชอบการวิเคราะห์เชิงลึก และสนใจการเติบโตของธุรกิจ การลงทุนในหุ้นก็น่าสนใจมาก

สรุปง่ายๆ:

• Forex: ถ้าคุณชอบความท้าทาย ตลาดที่ไม่เคยหลับ และอยากลองเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนสูง Forex คือทางของคุณ
• หุ้น: แต่ถ้าคุณชอบความมั่นคง สนใจการเติบโตของธุรกิจ และไม่ชอบความเสี่ยงสูงๆ การลงทุนในหุ้นอาจจะเหมาะกับคุณมากกว่า

ชอบแบบไหนเลือกเอาได้เลย