คนที่ลาออกจากงานประจำมาเทรดแบบเต็มตัวต้องมีทุนเท่าไหร่ถึงจะดี
เพราะการลาออกจากงานประจำมาเป็นเทรดเดอร์เต็มตัวเป็นการตัดสินใจที่ต้องคิดให้ดีจริงๆ เพราะนอกจากต้องเก่งเรื่องการเทรดแล้ว การบริหารเงินทุนก็สำคัญมาก ๆ เพื่อให้เราสามารถอยู่รอดในอาชีพนี้แบบยาวๆ
เรื่องที่ต้องคิดก่อน
-
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
-
ก่อนอื่นเลย ต้องรู้ว่าค่าใช้จ่ายของตัวเองในแต่ละเดือนมีอะไรบ้าง เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ต้องรู้ก่อนเลยอันดับแรก
-
เพื่อความปลอดภัย ควรมีเงินเก็บสำหรับค่าใช้จ่ายพวกนี้อย่างน้อย 6-12 เดือน เผื่อช่วงที่การเทรดไม่เป็นไปตามแผน
-
-
ขนาดของพอร์ตการลงทุน
-
พอร์ตลงทุนของเราคือแหล่งรายได้ ถ้าหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 5-10% ต่อเดือน พอร์ตต้องใหญ่พอ เช่น ถ้าต้องการรายได้เดือนละ 30,000 บาท พอร์ตควรมีขนาด 300,000-600,000 บาท เป็นอย่างต่ำนะ
-
-
บริหารความเสี่ยงให้ดี
-
ต้องมีแผนบริหารความเสี่ยงที่ชัดเจน เช่น การเสี่ยงไม่เกิน 1-2% ของพอร์ตต่อการเทรดหนึ่งครั้ง เพื่อป้องกันการขาดทุนหนัก
-
-
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเทรด
-
ค่าเน็ตแรงๆ และเสถียรพอประมาณ
-
ค่าเรียนเพิ่มเติม เช่น คอร์สออนไลน์ หนังสือ หรือโค้ชเทรด
-
ยกตัวอย่างง่ายๆ
สมมติว่าคุณมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวเดือนละ 20,000 บาท และอยากสำรองเงินไว้ 12 เดือน เท่ากับต้องมีเงินเก็บอย่างน้อย 240,000 บาท
ถ้าหวังผลตอบแทนพอร์ตที่ 7% ต่อเดือน และอยากมีรายได้เดือนละ 20,000 บาท พอร์ตต้องมีขนาดประมาณ 285,000 บาท หรือปัดเป็น 300,000 บาท
รวมแล้ว ทุนเริ่มต้นที่ควรมีคือ 540,000 บาท (เงินเก็บ 240,000 + พอร์ตลงทุน 300,000 บาท)
ข้อควรระวัง
-
อย่าคาดหวังสูงเกินไป: การเทรดไม่ใช่วิธีรวยเร็ว ต้องยอมรับความเสี่ยงและเรียนรู้จากความผิดพลาด
-
มีแผนสำรอง: ถ้ารายได้จากการเทรดไม่ถึงเป้า ควรมีทางเลือก เช่น งานเสริมหรือรายได้ทางอื่น
-
พัฒนาตัวเองเสมอ: การเทรดต้องเรียนรู้และปรับตัว ทั้งกลยุทธ์และจิตวิทยา
สรุป
ถ้าคิดจะลาออกจากงานประจำมาเทรดแบบเต็มตัว ต้องมีแผนการจัดการเงินทุนที่รอบคอบ ทุนเริ่มต้นที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายและขนาดพอร์ตที่คุณต้องการ แต่โดยทั่วไปควรมีเงินสำรองและเงินลงทุนรวมกันอย่างน้อย 500,000-600,000 บาท ถึงจะเริ่มต้นได้แบบไม่กดดันตัวเองเกินไป
ทิ้งคำตอบไว้
- 39 ฟอรัม
- 1,023 หัวข้อ
- 3,189 กระทู้
- 25 ออนไลน์
- 1,406 สมาชิก