ถ้าคุณเพิ่งเริ่มเทรด Forex สิ่งหนึ่งที่คุณควรรู้และเข้าใจตั้งแต่แรกก็คือ การจัดการความเสี่ยง ครับ ผมอยากบอกเลยว่า ไม่ว่าคุณจะมีกลยุทธ์เทพๆ แค่ไหน ถ้าไม่มีการจัดการความเสี่ยงที่ดี คุณก็อาจหมดตัวได้ในพริบตา วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องการจัดการความเสี่ยงในการเทรด Forex แบบง่ายๆ ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ โดยที่ไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อนมาก แต่ได้ผลจริงๆ

 ทำไมการจัดการความเสี่ยงถึงสำคัญขนาดนี้?

ลองคิดง่ายๆ ว่า การเทรด Forex มันไม่ได้มีแค่เรื่องทำกำไรเท่านั้น แต่มันเกี่ยวกับการป้องกันไม่ให้คุณขาดทุนหนักด้วย การจัดการความเสี่ยงก็เหมือนกับการสร้างเกราะป้องกันรอบๆ ตัวคุณ เวลาที่ตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณไม่คาดคิด เราไม่สามารถควบคุมตลาดได้ แต่มันอยู่ที่เราจะจัดการกับความเสี่ยงยังไง ไม่ให้เจ็บตัวหนักเกินไป

1. อย่าเสี่ยงเยอะเกินไปในแต่ละการเทรด

ข้อแรกที่ผมอยากจะบอกคือ อย่าเสี่ยงเยอะเกินไปในแต่ละออร์เดอร์ กฎง่ายๆ คือคุณไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดในการเทรดแต่ละครั้ง เช่น ถ้าคุณมีเงิน $1,000 ก็เสี่ยงแค่ $10 - $20 ต่อการเทรดพอครับ เพราะถ้าคุณเสี่ยงเยอะเกินไป การขาดทุนไม่กี่ครั้งอาจทำให้คุณเสียเงินเกือบทั้งหมด ถ้าเสี่ยง 10% ต่อครั้ง แค่ขาดทุน 5 ครั้งติดก็เกือบหมดตัวแล้ว

2. ใช้ Stop Loss ทุกครั้ง

Stop Loss คือเพื่อนแท้ของนักเทรดครับ ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน คุณก็ควรใช้ Stop Loss เสมอ โดยเฉพาะมือใหม่ เพราะมันจะช่วยจำกัดความเสียหายเวลาที่ตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ สมมติคุณเปิดซื้อ EUR/USD แล้วตลาดดันลงไปตรงข้ามกับที่คุณคาด ถ้าคุณตั้ง Stop Loss เอาไว้ เมื่อราคาลงมาถึงจุดนั้น ระบบจะปิดออร์เดอร์ให้คุณเอง ทำให้คุณไม่ขาดทุนมากกว่าที่ตั้งใจไว้

บางครั้ง การไม่ตั้ง Stop Loss อาจจะทำให้คุณนั่งเฝ้าหน้าจอด้วยความเครียด นอนก็ไม่หลับ กลัวว่าตลาดจะขยับไปไกลกว่านี้ เพราะงั้น ผมแนะนำให้ใช้ Stop Loss ทุกครั้งไปเลยครับ ชีวิตจะสบายขึ้นเยอะ

3. ระวังการใช้ Leverage สูงๆ

Leverage นี่เป็นเหมือนดาบสองคมในตลาด Forex ครับ มันช่วยให้เราทำกำไรได้มากขึ้นถ้าเทรดถูกทาง แต่ก็อาจทำให้ขาดทุนหนักได้ถ้าผิดทาง Leverage คือการที่โบรกเกอร์ให้เรายืมเงินเพื่อเปิดออร์เดอร์ที่ใหญ่กว่าที่เรามี แต่ปัญหาคือ ถ้าตลาดเคลื่อนไหวแค่เล็กน้อยในทางตรงข้ามกับคุณ คุณก็อาจเสียเงินได้เร็วมาก

สำหรับมือใหม่ ผมแนะนำว่าให้ใช้ Leverage ต่ำๆ ก่อนครับ อย่าไปใช้ 1:100 หรือ 1:500 ตั้งแต่เริ่ม เพราะมันเสี่ยงเกินไป การใช้ Leverage สูงๆ ต้องมีประสบการณ์และความเข้าใจตลาดมากพอ

4. ตั้ง Take Profit เพื่อรักษากำไร

เทคนิคง่ายๆ ที่ผมใช้บ่อยคือ การตั้ง Take Profit เพื่อให้ระบบปิดออร์เดอร์อัตโนมัติเมื่อราคาขึ้นมาถึงเป้าหมาย สมมติว่าคุณซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.1000 แล้วตั้ง Take Profit ไว้ที่ 1.1050 เมื่อราคาขึ้นมาถึงจุดนั้น ระบบจะปิดออร์เดอร์ให้คุณทันที นี่ช่วยป้องกันไม่ให้กำไรที่คุณทำได้หลุดลอยไป ถ้าตลาดเกิดกลับทิศทางอย่างกระทันหัน

5. กระจายความเสี่ยง อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าเดียว

หลายคนพลาดตรงที่เอาเงินทั้งหมดไปเทรดคู่เงินเดียว อันนี้เสี่ยงมากนะครับ ลองนึกภาพว่าถ้าคู่เงินนั้นเกิดผิดทางขึ้นมา คุณจะขาดทุนเยอะมากๆ การ กระจายความเสี่ยง ด้วยการเปิดออร์เดอร์ในหลายๆ คู่เงินจะช่วยลดความเสี่ยงได้ เช่น คุณอาจซื้อ EUR/USD แล้วขาย GBP/USD ไปพร้อมๆ กัน ถ้าคู่ใดคู่หนึ่งขาดทุน อีกคู่หนึ่งอาจทำกำไรกลับมาได้

6. รู้จักพัก และควบคุมอารมณ์

บางครั้งคุณอาจรู้สึกตื่นเต้นเมื่อทำกำไร หรือเครียดเมื่อขาดทุน อารมณ์เหล่านี้สามารถทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดได้ครับ หลายคนที่ขาดทุนหนักเกิดจากการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล คุณต้องรู้จักควบคุมตัวเอง บางครั้งการพักจากการเทรดเพื่อให้ใจเย็นลง เป็นทางเลือกที่ดีเลยนะครับ เพราะถ้าเรายังดันทุรังไปต่อ อาจเจอขาดทุนซ้ำเติมเข้าไปอีก

7. บันทึกการเทรดของคุณ

อีกหนึ่งสิ่งที่ผมอยากแนะนำคือการทำ Trading Journal หรือบันทึกการเทรด เพราะการจดบันทึกทุกการเทรดที่เราทำไป จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมว่าเราทำผิดพลาดตรงไหน ทำอะไรดี แล้วจะปรับปรุงยังไงในครั้งหน้า ไม่ต้องทำอะไรซับซ้อน แค่จดว่าเปิดออร์เดอร์ไหนเมื่อไหร่ ขาดทุนหรือกำไรเท่าไหร่ รวมถึงเหตุผลที่ทำให้คุณตัดสินใจเทรดในตอนนั้น

---

ทั้งหมดนี้คือแนวทางการจัดการความเสี่ยงสำหรับมือใหม่ที่ต้องรู้ การจัดการความเสี่ยงไม่ใช่แค่ป้องกันการขาดทุน แต่มันคือกุญแจที่จะช่วยให้คุณอยู่ในตลาดได้นานขึ้น ทำกำไรได้อย่างยั่งยืน และไม่หมดตัวไปก่อน อย่าลืมว่าการเทรดเป็นเกมระยะยาว ไม่ใช่เรื่องของการทำกำไรเร็วๆ ครับ