📈 ทำไมเราถึง BUY ทั้งที่ราคาลงมาแรง?

(กรณีศึกษา EUR/USD TF M5)

หลายคนอาจสงสัยว่า…
“เมื่อกราฟดิ่งลงมาแรง ทำไมยังกล้าเปิด BUY ไม่กลัวโดนลากต่อเหรอ?”

คำตอบอยู่ที่การอ่าน Market Structure และการทำงานของ Liquidity ครับ

1. เข้าใจโครงสร้างตลาด (Market Structure)

ตลาดไม่ได้วิ่งขึ้นหรือลงตรงๆ ตลอดเวลา แต่จะวิ่งเป็นรอบๆ เช่น

• ขาลง (Downtrend) → สร้าง Lower High (LH) และ Lower Low (LL)

• ขาขึ้น (Uptrend) → สร้าง Higher High (HH) และ Higher Low (HL)

👉 ในภาพ EUR/USD จะเห็นว่าหลังจากราคาลงแรง โครงสร้างเริ่มเปลี่ยน จากการทำ Lower Low → Higher High
นี่คือสัญญาณว่า โครงสร้างเริ่มกลับตัว จากขาลงเป็นขาขึ้น

2. Demand Zone และ Flip Zone

สิ่งสำคัญของ SMC คือการหาพื้นที่ Demand Zone หรือ Flip Zone

• เดิมทีบริเวณนั้นเป็น Supply → พอถูกทะลุ (Break of Structure) → พลิกกลับมาเป็น Demand

• เมื่อราคาย่อลงมาเทสโซนนี้ → มักเป็นจุดที่ Smart Money เข้ามาซื้อ

ในกรณีนี้ เราจึงเห็นราคาลงมาเทส Demand Zone (สีแดง/เทา) ก่อนดีดกลับแรง → กลายเป็นจุด BUY

3. การเก็บสภาพคล่อง (Liquidity Grab)

ราคาลงแรงก่อนหน้า ไม่ใช่สัญญาณ Sell ต่อ แต่เป็นการ

• กวาด Stop Loss ของเทรดเดอร์ที่ Buy ไว้ด้านล่าง

• เก็บ Liquidity เพื่อสะสมคำสั่งซื้อของรายใหญ่

หลังจาก Liquidity ถูกเก็บ → ตลาดจึงพร้อม “กลับตัวขึ้น”

4. สอดคล้องกับเทรนด์ใหญ่

แม้ TF เล็ก (M5) จะเห็นการลงแรง แต่ถ้าดู TF ใหญ่ (H1, H4) ยังเป็น Bullish Trend
ดังนั้น การ BUY ตรงนี้ไม่ได้สวนทางตลาด แต่เป็นการ “เข้าเก็บจังหวะย่อ” ตามแนวโน้มใหญ่

✅ สรุป

การที่ผมกล้า BUY ทั้งที่ราคาลงแรง เพราะว่า:

1. โครงสร้างตลาดเปลี่ยน (จากขาลง → ขาขึ้น)

2. ราคาเทส Demand Zone / Flip Zone M5

3. การลงแรงเป็นเพียง Liquidity Grab

4. เทรนด์ใหญ่ยังเป็นขาขึ้น

ดังนั้นนี่ไม่ใช่การสวนเทรนด์ แต่คือการ เข้าเทรดตามโครงสร้างใหม่ ที่เพิ่งกลับตัวขึ้นนั่นเอง 🚀

ถ้าใครมีความเห็นยังไงสามารถแสดงความคิดเห็นมากันได้เลยครับ