📊 สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินประจำวันที่ 03/02/2025 🌍
🔔 ทองคำ:

Spot Gold: $ 2,793.47

สรุปปัจจัยข่าวและแนวโน้มราคาทองคำ

1. ภาพรวมตลาด:
- ราคาทองคำในตลาดนิวยอร์กปิดลดลง $10.20 จากแรงขายทำกำไร หลังทะลุระดับสำคัญที่ $2,800
- ราคาทองคำ COMEX ปิดที่ $2,835.00/ออนซ์ หลังราคาทองสปอตทะลุระดับ $2,810 และทองฟิวเจอร์ทะลุ $2,860
- การขายทำกำไรเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่ราคาทองทำสถิติสูงสุดในอดีต

2. ปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคา:
2.1. แรงขายทำกำไร :
- หลังจากที่ราคาทองทะลุระดับสำคัญ นักลงทุนเก็บผลกำไร ส่งผลให้เกิดแรงขายในระยะสั้น
- ทำให้ราคาปรับตัวลดลงแม้จะมีแนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้านี้
2.2. ความไม่แน่นอนด้านนโยบายภาษีและการค้า:
- ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศ/ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกที่ 25% รวมถึงจีนที่ 10%
- ขู่เพิ่มภาษี 100% สำหรับสินค้าจากกลุ่มประเทศ BRICS หากเปลี่ยนสกุลเงิน
- สร้างความวิตกกังวลด้านเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ทำให้นักลงทุนหันมาซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
2.3. ข้อมูลการจ้างงานและแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐฯ:
- คาดว่ารายงานจ้างงานสหรัฐฯ เดือนมกราคมจะเพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่ง แม้จะลดลงจากเดือนธันวาคม
- ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งช่วยสนับสนุนให้เฟดชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น
- ส่งผลให้ทองคำต้องเผชิญกับแรงกดดันจากต้นทุนทางการเงินที่สูงอยู่ในระยะเวลาหนึ่ง
2.4. ผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยี:
- บริษัทชั้นนำอย่าง Alphabet, Amazon รวมถึง Microsoft และ Meta Platforms กำหนดประกาศผลประกอบการ
- ความผันผวนในตลาดหุ้นที่อาจเกิดจากผลประกอบการ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและความเสี่ยงในตลาด
2.5. นโยบายการเงินในสหราชอาณาจักร (Bank of England):
- ธนาคารกลางอังกฤษคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงจาก 4.75% เป็น 4.5% เนื่องจากเศรษฐกิจซบเซา
- การลดอัตราดอกเบี้ยในอังกฤษช่วยเสริมความน่าสนใจของสินทรัพย์ปลอดภัยในสภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน

3. แนวโน้มและข้อเสนอแนะการเทรด:
- ระยะสั้น:
- ควรระวังความผันผวนจากแรงขายทำกำไรและข่าวความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า
- ระยะกลาง-ยาว:
- ทองคำยังคงมีศักยภาพในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (safe haven) เมื่อเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจโลก

-ติดตามข่าวเศรษฐกิจสำคัญและนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯและอังกฤษเพื่อปรับกลยุทธ์เทรดให้เหมาะสม

สรุป:
แม้ในระยะสั้นทองคำอาจแสดงความผันผวนจากแรงขายทำกำไร แต่ด้วยปัจจัยพื้นฐานจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายภาษี การค้า และข้อมูลเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ทำให้ทองคำยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาสินทรัพย์ปลอดภัยในตลาด Forex

⚠️ "ข้อมูลและการวิเคราะห์ที่นำเสนอในนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น มิได้มีเจตนาชักชวนหรือสนับสนุนให้ลงทุนในสินทรัพย์ใด ๆ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบคอบ"⚠️

💱 อัตราแลกเปลี่ยน:

USD/THB: 34.02
ดัชนีดอลลาร์: 109.422

📈 พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี:

Yield: 4.543

ส่วนที่ 2

🛢️ ราคาน้ำมัน WTI:

$74.08/บาร์เรล

1. ภาพรวมตลาดน้ำมัน:
- WTI: ปิดลดลง 20 เซนต์ (0.27%) ที่ 72.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เบรนท์: ปิดลดลง 11 เซนต์ (0.14%) ที่ 76.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ราคาน้ำมันดิบลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน (ลดลง 2.9% สำหรับ WTI และ 2.1% สำหรับเบรนท์)

2. ปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาน้ำมัน:
2.1. ความกังวลเรื่องภาษีนำเข้า:
- นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการที่สหรัฐฯ จะเก็บภาษีจากสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่
- ทรัมป์เคยประกาศขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษี 25% แต่ล่าสุดมีแนวโน้มลดลงเป็น 10% สำหรับน้ำมันจากแคนาดา
- ความไม่แน่นอนนี้อาจทำให้ราคาน้ำมันในตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาว เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น
2.2. ผลกระทบต่อการผลิตและโรงกลั่น:
- นักวิเคราะห์จาก Energy Aspects เตือนว่าการเก็บภาษีนำเข้าจะส่งผลให้การผลิตในโรงกลั่นของสหรัฐฯ ลดลง
- ปริมาณน้ำมันดิบที่ลดลงจากแคนาดาจะทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดปรับตัวสูงขึ้น
2.3. การตอบโต้จากประเทศผู้ส่งออก:
- นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดาแจ้งว่าจะตอบโต้อย่างแข็งกร้าวหากสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษี
- การตอบสนองในเชิงลบจากผู้ส่งออกสำคัญเพิ่มความไม่แน่นอนในตลาด
2.4. สัญญาณบวกจากการปรับเปลี่ยนภาษีในอนาคต:
- หลังปิดตลาดในวันศุกร์ ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากคาดว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจลดภาษีนำเข้าน้ำมันจากแคนาดาเหลือ 10%
- ทรัมป์คาดว่าจะเรียกเก็บภาษีน้ำมันและก๊าซประมาณวันที่ 18 ก.พ. ซึ่งช้ากว่าที่คาดไว้ ช่วยบรรเทาความกังวลในทันที
2.5. ปัจจัยด้านตลาดโลกและโอเปก+:
- ตลาดจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ที่คาดว่าอาจไม่ปรับเปลี่ยนแผนเพิ่มการผลิต
- ทรัมป์เรียกร้องให้โอเปกและซาอุดีอาระเบียลดราคาน้ำมันลง แต่แนวโน้มนี้ยังอยู่ในความคาดการณ์

3. แนวโน้มและข้อเสนอแนะการเทรด:
- ระยะสั้น:
- ราคาน้ำมันแสดงความผันผวนจากข่าวภาษีและความไม่แน่นอนในตลาด
- ควรจับจังหวะระยะสั้นเพื่อตัดสินใจเทรด เนื่องจากความกังวลด้านภาษียังคงส่งผลต่อราคา
- ระยะกลาง-ยาว:
- หากมีการลดภาษีนำเข้าจริง น้ำมันอาจมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
- ความไม่แน่นอนด้านการผลิตและการตอบโต้จากประเทศผู้ส่งออกยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจผลักดันราคาในอนาคต

สรุป:
ข่าวภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีสัญญาณบวกจากการคาดว่าภาษีอาจลดลงในอนาคต แต่ความไม่แน่นอนในด้านภาษีและการผลิตโรงกลั่นในสหรัฐฯ รวมถึงการตอบโต้จากผู้ส่งออกหลัก ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนต้องจับตาในระยะสั้นและระยะกลางสำหรับการเทรด Forex น้ำมัน ดังนั้น ควรระมัดระวังและติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับกลยุทธ์เทรดให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดในขณะนี้

ส่วนที่ 3

😨 VIX (ดัชนีความผันผวน):

16.42

🏆 กองทุนทองคำ SPDR:

ปริมาณการถือครอง: 864.77 (วันนี้กองทุนมีการซื้อเข้า 0.58 ตัน 🔼)

💡 คำแนะนำการเทรดทองคำวันนี้:

แนวรับสำคัญ: $2,784 , $2,766 ,$2,748
แนวต้านสำคัญ: $2,808 , $2,824 , $2842

🔍 ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม:

📅 ตารางข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน:
- ⭐⭐⭐ 22.00 น. ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS (ธ.ค.)

⏰ หมายเหตุ: เวลาทั้งหมดเป็นเวลาไทย (GMT+7)

⚠️ Disclaimer: ข้อมูลนี้เป็นเพียงความคิดเห็นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

เครดิต N Rattana