สรุปสถานการณ์ตลาดการเงิน 17 ธันวาคม 2024
📊 สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินประจำวันที่ 17/12/2024 🌍
🔔 ทองคำ:
Spot Gold: $ 2,656.87
แนวโน้มราคาทองคำ:
ภาพรวม: ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากปัจจัยหลายด้านที่หนุนอุปสงค์ในระยะกลางถึงยาว แม้ว่าจะมีการปรับฐานเล็กน้อยในระยะสั้น
เหตุผลหลักที่สนับสนุนแนวโน้มราคาทองคำ:
1. การคาดการณ์ปรับลดดอกเบี้ยของเฟด:
• นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 18 ธ.ค.
• การลดดอกเบี้ยจะทำให้ทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนการถือครองลดลง และกดดันค่าเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ
2. ปัจจัยจากจีน:
• ธนาคารกลางจีน กลับมาซื้อทองคำเพิ่มเข้าสู่ทุนสำรอง ซึ่งแสดงถึงความต้องการทองคำที่สูงขึ้น
• การส่งสัญญาณเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐและเน้นการบริโภคจากที่ประชุมเศรษฐกิจของจีน จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มความต้องการทองคำในตลาดเอเชีย
• ความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเป็นอีกแรงหนุน
3. ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์:
• ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์โลก เช่น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ยังคงเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
4. ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ:
• นักลงทุนยังรอดูตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของเฟด (GDP, อัตราว่างงาน, อัตราเงินเฟ้อ) ซึ่งหากมีสัญญาณชะลอตัวทางเศรษฐกิจ จะยิ่งเพิ่มความต้องการทองคำ
สรุป:
แม้ราคาทองคำจะปรับตัวลงเล็กน้อยในระยะสั้น แต่แนวโน้มในระยะกลางยังเป็นขาขึ้น จากการคาดการณ์ลดดอกเบี้ยของเฟด, การเข้าซื้อทองคำของจีน, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน และสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงตึงเครียด ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย.
⚠️ "ข้อมูลและการวิเคราะห์ที่นำเสนอในนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น มิได้มีเจตนาชักชวนหรือสนับสนุนให้ลงทุนในสินทรัพย์ใด ๆ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบคอบ"⚠️
💱 อัตราแลกเปลี่ยน:
USD/THB: 34.05
ดัชนีดอลลาร์: 106.786
📈 พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี:
Yield: 4.397
🛢️ ราคาน้ำมัน WTI:
$70.20/บาร์เรล
แนวโน้มราคาน้ำมัน:
ภาพรวม: ราคาน้ำมันมีแนวโน้มถูกกดดันในระยะสั้น จากปัจจัยลบด้านอุปสงค์ในจีนและแรงขายทำกำไรของนักลงทุน แต่ยังต้องติดตามผลการประชุมเฟดและตัวเลขสต็อกน้ำมัน ซึ่งอาจสร้างความผันผวนเพิ่มเติม
เหตุผลหลักที่กดดันแนวโน้มราคาน้ำมัน:
1. ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคจีนที่อ่อนแอ:
• ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 3% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 4.6% และลดลงจากเดือนก่อนหน้า
• ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่า อุปสงค์น้ำมันจากจีน (ประเทศนำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก) จะลดลง
2. แรงขายทำกำไรของนักลงทุน:
• นักลงทุนขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงก่อนผลการประชุมเฟดในวันพุธนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันถูกกดดัน
3. ความกังวลเกี่ยวกับการประชุมเฟด:
• ตลาดจับตาทิศทางนโยบายการเงินของเฟด โดยเฉพาะสัญญาณเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในปี 2568
• หากเฟดยังคงท่าทีเข้มงวดทางการเงินหรือมีท่าทีที่ไม่ชัดเจน อาจกดดันเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันเพิ่มเติม
4. ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ:
• นักลงทุนรอดูตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบจาก API และ EIA ซึ่งจะบ่งบอกถึงความสมดุลของอุปทานและอุปสงค์ในตลาดน้ำมัน
• หากสต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้น จะยิ่งเป็นแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน
สรุป:
ราคาน้ำมันมีแนวโน้มผันผวนและถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์ในจีน หลังตัวเลขเศรษฐกิจอ่อนแอ ประกอบกับแรงขายทำกำไรก่อนการประชุมเฟด อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องจับตาเพิ่มเติม ได้แก่ ท่าทีของเฟดเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย และรายงานสต็อกน้ำมันดิบ ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางราคาน้ำมันในระยะสั้นถึงกลาง.
😨 VIX (ดัชนีความผันผวน):
14.69
🏆 กองทุนทองคำ SPDR:
ปริมาณการถือครอง: 864.19 (วันนี้กองทุนมีการซื้อเข้า 0.29 ตัน🔼)
💡 คำแนะนำการเทรดทองคำวันนี้:
แนวรับสำคัญ: $2,650 , $2,635 , $2,625
แนวต้านสำคัญ: $2,670 , $2,680 , $2,700
🔍 ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม:
- การประชุม Fed วันที่ 17-18 ธันวาคม
- การประชุมของ BOJ
- การประชุมเรื่องการคงดอกของ BoE
- ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ เกี่ยวกับการซื้อทองคำ
- ความรุนแรงในตะวันออกกลางที่อาจเพิ่มความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
📅 ตารางข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน:
- ⭐⭐⭐ 20.30 น. ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)
⏰ หมายเหตุ: เวลาทั้งหมดเป็นเวลาไทย (GMT+7)
⚠️ Disclaimer: ข้อมูลนี้เป็นเพียงความคิดเห็นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
เครดิต เจอโรมพาเทรด
ทิ้งคำตอบไว้
- 39 ฟอรัม
- 998 หัวข้อ
- 3,134 กระทู้
- 58 ออนไลน์
- 1,400 สมาชิก