คู่สกุลเงิน GBP/USD เป็นหนึ่งในคู่เงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดฟอเร็กซ์ เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากเศรษฐกิจของทั้ง สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา รวมถึงปัจจัยด้านนโยบายการเงิน ความสัมพันธ์ทางการค้า และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญต่างๆ

สำหรับวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2568 มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของ GBP/USD ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ทิศทางของดอลลาร์ และแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากฝั่งอังกฤษ บทความนี้จะวิเคราะห์ แนวโน้มและกลยุทธ์การซื้อขาย จากข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) และปัจจัยทางเทคนิค (Technical Analysis)

---

1. ปัจจัยพื้นฐานที่มีผลต่อ GBP/USD

📌 ปัจจัยจากฝั่งสหรัฐฯ

1. ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และยอดค้าปลีก

หากตัวเลขออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ อาจส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กดดันให้ GBP/USD ลดลง

หากตัวเลขต่ำกว่าที่คาด ดอลลาร์อาจอ่อนค่า ทำให้ GBP/USD ปรับตัวสูงขึ้น

2. ท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)

หาก Fed ส่งสัญญาณ ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย หรือมีแนวโน้มลดดอกเบี้ย อาจทำให้ GBP/USD แข็งค่าขึ้น

หากยังคงนโยบายดอกเบี้ยสูงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ อาจกดดันให้ GBP/USD อ่อนตัว

📌 ปัจจัยจากฝั่งอังกฤษ

1. ข้อมูลเศรษฐกิจอังกฤษ

รายงานล่าสุดระบุว่าการจ้างงานของอังกฤษลดลง ซึ่งอาจกดดันค่าเงินปอนด์

หากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี อาจช่วยหนุน GBP/USD ให้ปรับตัวสูงขึ้น

2. นโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

หาก BoE มีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยต่อ อาจเป็นปัจจัยบวกต่อ GBP/USD

แต่หาก BoE ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาจเป็นปัจจัยลบต่อ GBP/USD

3. ความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหภาพยุโรป

หากมีความตึงเครียดในการเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษกับสหภาพยุโรป อาจกดดันค่าเงินปอนด์

---

2. การวิเคราะห์ทางเทคนิคจากกราฟ GBP/USD (TF: 1D)

จากกราฟที่แนบมา เราสามารถสรุปแนวโน้มได้ดังนี้:

📈 สัญญาณทางเทคนิค

ราคาอยู่ที่ 1.24917 ใกล้แนวต้านสำคัญ 1.2500

Bollinger Bands → ราคากำลังทดสอบเส้นกลางของ BB หากทะลุขึ้น อาจเป็นสัญญาณขาขึ้น

RSI (55.00) → อยู่ในโซนกลาง ยังไม่มีภาวะ Overbought หรือ Oversold

MACD → กำลังตัดขึ้น แสดงถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่อาจเกิดขึ้น

Stochastic Oscillator (70.25) → อยู่ในช่วงเริ่ม Overbought ต้องจับตาดูว่าจะทะลุขึ้นหรือกลับตัวลง

OBV เพิ่มขึ้น → แสดงว่าแรงซื้อยังมีอยู่

ATR (0.01022) → ความผันผวนเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจหมายถึงการเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญเร็ว ๆ นี้

---

3. ควรซื้อ (Buy) หรือขาย (Sell)?

✅ สถานการณ์ที่ควร Buy

ถ้าราคาทะลุแนวต้าน 1.2500 - 1.2530 → คาดว่าแนวโน้มจะเป็นขาขึ้น

เป้าหมายกำไร (Take Profit, TP) 1.2600 - 1.2650

Stop Loss (SL) 1.2450 (เพื่อป้องกันความเสี่ยง)

✅ สถานการณ์ที่ควร Sell

ถ้าราคาถูกปฏิเสธจากแนวต้าน 1.2500 และเกิดสัญญาณกลับตัว

เป้าหมายกำไร (TP) 1.2400 - 1.2350

Stop Loss (SL) 1.2530

---

4. บทสรุป

📌 โมเมนตัมขาขึ้นเริ่มก่อตัว แต่ยังไม่แข็งแกร่งมาก
📌 หากราคาทะลุ 1.2500 ขึ้นไป อาจเป็นจังหวะ Buy ที่ดี
📌 หากราคาถูกปฏิเสธจากแนวต้านและ Stochastic ตัดลง อาจเป็นโอกาส Sell
📌 ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของอังกฤษและสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

💡 คำแนะนำเพิ่มเติม

ใช้ Risk Management: ตั้ง Stop Loss เสมอ

ติดตามข่าวจาก Fed และ BoE

หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงข่าวแรง เช่น การประกาศ CPI, Non-Farm Payrolls ฯลฯ

---

📌 คำเตือน

บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน นักลงทุนควรใช้การวิเคราะห์เพิ่มเติม และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน