การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

เทรดเดอร์มืออาชีพ ไม่มีคำว่า “แก้ไม้”

2 กระทู้
2 ผู้ใช้
3 Reactions
51 เข้าชม
thaiforex
(@thaiforex)
สมาชิก Admin
Rank SSS
เข้าร่วม: 6 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 625
หัวข้อเริ่มต้น  
ผมเชื่อว่า หลายคนในนี้ ตั้งใจเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ ดังนั้น ผมขออนุญาตให้คำแนะนำสั้นๆ ดังนี้
เทรดเดอร์มืออาชีพ ไม่มีคำว่า “แก้ไม้” การที่ต้องมาแก้ไม้ แปลว่า “จุดเข้าเริ่มต้นมันผิด!” แล้วเราพยายามหาวิธี หรือรอเวลา ให้จุดที่เข้าผิดนั้น กลายเป็นกำไร แบบนี้มันคือ defensive trading
 
Defencive trading ไม่ต้องใช้ skills อะไรมาก แต่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีทุนมากพอกับ size ที่เราเทรด พอร์ตทนราคาเหวี่ยงให้ได้ แล้วไม่ช้าก็เร็วมันจะมีจังหวะที่ราคาเหวี่ยงกลับมาหาจุดที่เราเข้า แต่ … จะซวยหนักถ้าตลาดติดเทรนแล้วกู่ไม่กลับ
 
การสอนเทรดในตลาด retails (ตลาดลูกค้ารายย่อย) เราจะสอนแนว defencive trading เพราะมันปลอดภัย ทั้งคนสอน ทั้งคนเทรด และทั้งโบรกเกอร์ … มีเงินหนาอย่างเดียว ทุกอย่างจบ ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน
 
แต่ … ถ้าเราก้าวออกมาจากตลาด retails เข้าสู่ ตลาด whole sales (ตลาดลูกค้าสถาบัน หรือกองทุน) เทรดเดอร์พวกนี้ ไม่มีคำว่าแก้ไม้ “ไม่มีเด็ดขาด” ไม่มีสถาบันไหนปล่อยให้เทรดเดอร์เอาเงินหลายล้าน ไป MM แขวนรอให้ตลาดกำหนดชะตากรรมของพอร์ต เพราะมันเสี่ยงมาก และไม่มีใครควบคุมตลาดได้
 
เทรดเดอร์ทุกคนต้องมี room for errors (ค่าเบี่ยงเบนจากจุดที่เข้า) ที่แต่ละคนต้อง follow เราไม่ใช่เทวดาที่เข้าแล้วมันต้องเป๊ะ! ดังนั้น จึงต้องเผื่อผิด/ถูกไว้บ้าง และอาจมีการถัวราคาสู้ได้ แต่หากราคาหนีเกิน room for errors … ปิดทิ้งเท่านั้น ไม่มีคำว่าแก้ไม้ มีแต่แก้มือ หาจังหวะเข้าใหม่
 
ผมอยากเห็นพวกเรา ออกจากตลาด retails อยากให้คิดแบบเทรดเดอร์สถาบัน ดังนั้น แนะนำให้ปรับ mindset ให้สอดคล้องกับความตั้งใจที่จะเป็นมืออาชีพนะครับ … ต้องไม่แก้ไม้ !!!
 
Anyway … พยายามเป็น เทรดเดอร์เชิงรุก หลีกเลี่ยงการเป็น เทรดเดอร์เชิงรับ นะครับ … เราต้อง attack ตลาด แล้วถอยออกมาเอง อย่าให้ตลาด attack เรา บีบทางเรา จนเราไม่มีทางเลือก นอกจากต้องสู้ฝ่าวงล้อม!
 
การ MM เคยทำให้แบงค์พังมาแล้วด้วยนะ มันเกิดขึ้นในปี 1995 กับ Investment Bank ของอังกฤษชื่อ Barings Bank
เทรดเดอร์ MM เติมเงินสู้เลี้ยงพอร์ตจนเงินหมดธนาคาร 1.3 พันล้าน USD! แบงค์พัง แล้วตั้งแต่นั้นมา ทุกสถาบันจึงรัดกุมกับการเทรดมาก
 
เครดิตจาก Chayapon Phucharoenyos

   
อ้างอิง
แบ่งปัน: